เมื่อเวลา 13.00 น. ของวันที่ 8 พ.ย. 2564 บ.ไทยลีก จำกัด ร่วมกับ บ.โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด จัดงานแถลงข่าวออนไลน์ Revo Thai League Meet the press ก่อนการแข่งขันฟุตบอลไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก ฤดูกาล 2021/22 นัดที่ 12 ระหว่าง “นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี” พบ “บีจี ปทุมฯ ยูไนเต็ด”
สำหรับการแถลงข่าวครั้งนี้ มีทางด้านของ “ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น” หัวหน้าผู้ฝึกสอนของนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี และ “ออเรลิโอ วิดมาร์” หัวหน้าผู้ฝึกสอนของ บีจี ปทุมฯ ยูไนเต็ด เข้าร่วมงาน
โดย “โค้ชโจ” กุนซือของทัพสวาทแคท กล่าวว่า
“เกมที่แล้วเป็นเกมที่ดีเกมหนึ่ง ทั้งวิธีการ ความเชื่อมั่น ก็ถือเป็นทิศทางที่ดีของเรา กับเกมที่จะเจอกับบีจี เราต้องยอมรับว่าพวกเขาเป็นทีมใหญ่ เป็นเต็งแชมป์ทีมหนึ่ง เราดูพวกเขาเล่นมาตลอด ทั้งจุดอ่อนจุดแข็ง รวมถึงวิธีการเล่น และนักเตะต่างชาติที่เป็นกองหลังอย่างตูเญซ กับคาร์โดโซ่ ที่กลับมาแล้ว พวกเขาแข็งแกร่งจริงๆ แต่ผมเชื่อว่าเกมในบ้านของเรา เราก็มีวิธีการเล่นของเราในการจัดการพวกเขา เราเคารพบีจี แต่ผมเชื่อว่าเราสามารถมีเกมที่ดีในวันพุธนี้ได้
เราทราบกันดีว่าเรามีการเปลี่ยนนักเตะต่างชาติหลายราย ต้นฤดูกาลพวกเขาอาจยังปรับตัวกันได้ไม่ดีนักจนโดนคำวิจารณ์ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเขา เพราะพวกเขามาลีกไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งต้องปรับตัว บวกกับสถานการณ์โควิดที่ทำให้พวกเขาได้ซ้อมไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย พอลีกเริ่มจริงๆ ก็เหมือนเป็นเกมเรียกความฟิตของพวกเขามากกว่า และด้วยสไตล์การเล่นที่เขายังต้องปรับตัวเข้าหาทีมอีก แต่มันก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เกมล่าสุดพวกเขาทำผลงานได้ดี แต่ผมก็บอกให้พวกเขารักษาการทำงานหนักไว้ เพราะฤดูกาลนี้ยังอีกไกล
เรื่องผลการแข่งขันที่ผ่านมา ส่วนนี้เป็นเรื่องของความเชื่อมั่น ผมต้องบอกเด็กว่าเกมกับท่าเรือมันจบไปแล้ว เราต้องมาโฟกัสในการเจอบีจี ปีที่แล้วเราเจอบีจี แล้วแพ้ไปกลับ แต่หากดูรายละเอียดของเกม เราสู้ได้ดีทั้งสองเกม แต่มันมีจุดพลิกผันเยอะ เกมแรกที่สนามเรา เราได้จุดโทษก่อน แต่อัสซัมเซาก็พลาดไป แล้วเราก็โดนยิง
ส่วนเกมที่บ้านบีจี เราเปิดเกมแลกได้ดี แต่ก็แพ้ไปลูกหนึ่ง ผมว่าเราสู้ได้ แต่ต้องยอมรับว่าช่วงนี้บีจีกำลังมา พวกเขาชนะ 5 เกมรวด พวกเขามั่นใจ และนักเตะหลักๆ เริ่มกลับมา พวกเขาคงได้ลุ้นแชมป์ไปยาวๆ แต่โคราชได้เล่นในบ้าน ด้วยความมั่นใจที่มี และมีแฟนบอลที่ผมว่ามีผลต่อผลการแข่งขันมาก ผมก็ยังเชื่อมั่นว่านี่จะเป็นที่สนุกครับ บีจียังแข็งแกร่ง แต่ทุกทีมก็มีจุดแข็งและจุดอ่อน และเราต้องหาวิธีมารับมือพวกเขาให้ได้ครับ
ส่วนนักเตะที่บาดเจ็บหลังจบเกมกับท่าเรือ ก็มี ณัฐชัย ที่บาดเจ็บที่ข้อเท้ากับเอ็น หลังเอ็กซ์เรย์มา รวมถึงธิติ ที่มีศีรษะแตกจนต้องเย็บ 6 เข็ม ต้องรอดูว่าเขาไหวไหม ส่วนซาฮาเน็ค ที่หายไปหลายเกม เราต้องดูว่าเขาจะกลับมาฟิตทันเกมนี้ไหม แต่นอกจากนี้ก็ไม่มีใครเจ็บหรือติดโทษแบนครับ
เรื่องนักเตะในทีมที่ถูกเรียกไปทีมชาติ ผมอยู่กับลูกทีมผมทุกวัน ผมก็คิดว่าน่าจะมีนักเตะติดทีมชาติมากกว่านี้ แน่นอนว่า อาแว (อับดุลฮาฟิส) ควรติด เพราะเจ้าตัวผลงานดี และมีฟอร์มสม่ำเสมอในปีนี้ แต่เฉลิมพงศ์เอง เขาอาจอายุเยอะ แต่เขาจะมีประโยชน์หากเรียกไปช่วยทีมชาติแน่ หากเอาแค่ผลงานมาว่ากัน ผมมองว่าเขามีผลงานที่ดีในปีนี้ รวมถึงปีที่แล้ว และมีฟอร์มสม่ำเสมอ
ท้ายที่สุดแล้วการเป็นโค้ชทีมชาติ ผมว่าควรดูว่าใครฟอร์มดีต่อเนื่องในลีกครับ บางคนไม่ค่อยได้เล่นในลีก แต่กลับมีชื่อติดทีมไป อาจเป็นเพราะชื่อเสียงเก่าๆ ผมว่าโค้ชทีมชาติควรมองจากฟอร์มปัจจุบัน ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เราต้องการแชมป์ ใครที่ดีที่สุดก็ควรจะได้ติดทีมไปครับ แต่ผมก็เคารพการตัดสินใจของมาโน่ เขาอาจมีตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากถามผล เฉลิมพงษ์ หรือ ณัฐพงษ์ ควรมีชื่อติดไปในรอบแรกสักหน่อยครับ
ส่วนเรื่องโปรแกรมทีมชาติ ผมมองว่าหากเราจะตามสากลจริงๆ เราก็อาจจะมีเวลาน้อย แต่พวกชาติในยุโรปก็ไม่ได้เรียกนักเตะเข้าแคมป์ เพราะนักเตะมีความฟิตจากเกมลีกอยู่แล้ว แล้วโค้ชก็จะเลือกผู้เล่นที่เข้าระบบไป เพราะมีทั้งความฟิต และความสม่ำเสมอในการเล่น แล้วก็อาจมีการลงรายละเอียดในเรื่องแท็คติกนิดหน่อยครับ สำหรับผมการเก็บตัว 10-20 วันมันไม่จำเป็นแล้วครับ
ช่วง 4 เกมหลังที่เราชนะมา ซาฮาเน็คก็ไม่ได้เล่นเพราะบาดเจ็บ แต่ผมก็มีการหมุนเวียนทั้งผู้เล่น และแท็คติกในเกมนั้นๆ ต้องยอมรับว่านักเตะที่ลงไปทำได้ ซึ่งผมมองจากการที่เราชนะ 4 เกมรวดทั้งในลีก และเอฟเอ คัพ ผมก็ไม่ได้กังวลนักหากซาฮาเน็คยังกลับมาไม่ได้
ส่วนการเจอบีจี ผมคงไม่โฟกัสกับใครคนใดคนหนึ่ง เพราะนักเตะพวกเขาทุกคนมีคุณภาพ สามารถตัดสินเกมได้ ทั้งจากโอเพ่นเพลย์ และเซ็ตพีซของพวกเขาที่มีความอันตราย เรื่องของเกมรับต้องไม่โฟกัสแค่กองหลัง หรือผู้รักษาประตู เราต้องเล่นเกมรับเป็นทีม และเกมรุกเป็นทีม และผมคงต้องบอกถึงแผนการรับมือพวกเขา แต่เกมในบ้าน เรื่องของเสียงเชียร์และความเชื่อมั่นจะทำให้เกมมันสนุก แต่หากเราเตรียมทีมมาไม่ดีพอ เราก็อาจโดนพวกเขาลงโทษได้ เราต้องปิดจุดแข็งพวกเขา และโจมตีจุดอ่อนให้ได้
เกมกับบีจี เราก็อยากให้แฟนบอลเข้ามาเชียร์เยอะๆ ด้วยเงื่อนไขการเข้าดู แม้จะให้เข้า 25 เปอร์เซ็นต์ แต่แฟนบอลก็ยังมาน้อยไปสักหน่อยสำหรับผม แต่ในเกมกับท่าเรือ แฟนบอลเข้ามาเกือบ 2,000 คน ก็ถือว่าเยอะที่สุดตั้งแต่มีโควิด แต่ในเกมนี้ผมอยากให้มาเยอะกว่านั้น เพราะจะช่วยผลักดันนักเตะให้สู้จนนาทีสุดท้าย รวมถึงแชร์ความสุขร่วมกันได้ ผมเชื่อนี่จะเป็นเกมในบ้านที่ดีอีกเกมของเราครับ”
ส่วน “วิดมาร์” กุนซือของทัพเดอะ แรบบิท ได้กล่าวว่า
“ช่วงนี้ฟอร์มของทีมเราดีทีเดียว นักกีฬาทำได้ตามหน้าที่และแท็คติก ซึ่งมันสำคัญมาก การชนะมาเรื่อยๆ ก็ทำให้เราได้ความมั่นใจ และเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้ครับ
หากพูดถึงตูเญซ กับคาร์โดโซ่ เราไม่มีกองหลัง 2 ตัวหลักมาถึง 5 สัปดาห์ แต่เราก็ทำได้ดีตอนที่ไม่มีพวกเขา อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนมีความสำคัญ พวกเขามีประสบการณ์ มีความเป็นผู้นำ ผมดีใจที่ทั้งคู่กลับมา และเชื่อว่าเกมรับของทีมจะดีขึ้น แต่เรื่องของเกมรับไม่ใช่แค่กองหลัง มันเป็นเรื่องของทุกคน เพราะทุกคนมีหน้าตัวของตัวเอง ที่ต้องช่วยกันในทีมครับ
ตอนนี้เราอยู่ในฟอร์มที่ดี แต่เกมนี้ยากแน่ เราได้ดูพวกเขาเล่นเมื่อคืน พวกเขามีสปิริตที่ดี มีรูปแบบการเล่นที่ดีมาก และเกมต่างๆ ในไทยลีกไม่เคยง่ายอยู่แล้ว ก็คิดว่านี่จะเป็นเกมที่ดี
ส่วนดิโอโก้ ผมคิดว่าเขาไม่น่ากลับมาช่วยทีมได้ทันในเลก 1 และเราก็หวังว่าเขาจะกลับมาได้ในเดือนมกราคมครับ
การติดทีมชาติถือเป็นเกียรติของนักกีฬา ผมอยากให้พวกเขาไป และผมก็ยินดีกับพวกเขา โดยเฉพาะที่ติดทีมชาติเป็นครั้งแรก ทั้งจักพัน, เชาว์วัตน์ และฉัตรมงคล
นักเตะต่างชาติของโคราชเป็นผู้เล่นที่ดี กล้าเลี้ยงกล้าลุย มันเป็นโจทย์ที่ท้าทายสำหรับทีมเราแน่ เราได้ดูที่พวกเขาเจอท่าเรือมา เราก็เตรียมพร้อมรับมือเป็นอย่างดี
ส่วนเรื่องของการโรเตชั่นในเกมที่เหลือของเลกแรก เราคงต้องดูเกมต่อเกม เราไม่รู้อนาคตว่าจะมีผู้เล่นบาดเจ็บหรือไม่อย่างไร ก็คงต้องดูกันไปเกมต่อเกม
ขณะที่เป้าหมายเลกแรก ตอนนี้เราก็ตั้งเป้าจะเก็บชัยชนะให้มากที่สุด เดือนที่ผ่านมาก็มีโปรแกรมหนัก เดือนนี้ก็ด้วยครับ มันยากและท้าทาย เราเตะมาถี่ตลอด 8 สัปดาห์ กุญแจสำคัญคือเราต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุดในแต่ละเกม รวมถึงการฟื้นฟูนักเตะด้วย หากชนะมันก็จะดี เพราะจะพาเราไปอยู่ในตำแหน่งที่ดีในตารางคะแนน
แฟนบอลคือที่หนึ่งของเรา เราคิดถึงแฟนบอลมากๆ 2 เกมที่ผ่านมาก็มีแฟนบอลเข้าสนามมา 25 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งเกมหลังจากนี้ โดยเฉพาะวันเสาร์ คิดว่าแฟนบอลจะเข้ามา 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว ก็ขอเชิญแฟนบอลเข้ามาดูเกมในสนามเยอะๆ ครับ”
ฟุตบอลไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2021/22 นัดที่ 12 คู่ระหว่าง “นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี” พบ “บีจี ปทุมฯ ยูไนเต็ด” จะแข่งขันในวันที่ 10 พ.ย. เวลา 18.00 น. ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ถ่ายทอดสดทาง ททบ.5 HD1 และ AIS Play
NEWS by UFA181
เป็นสมาชิกเดิมพันบอล UFABET ค่าน้ำดีที่สุด ได้ที่ไลน์ @181UFA