“ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย ได้ฉลองปีใหม่กันแบบชื่นมื่น แม้จะเสมอกับ “ทัพการูด้า” ทีมชาติอินโดนิเซีย ไปด้วยสกอร์ 2-2 ในศึกฟุตบอล AFF Suzuki Cup 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดที่ 2 ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร
โดยในเกมนี้ ทีมชาติไทย มีการปรับเปลี่ยนตัวผู้เล่นเล็กน้อยจากเกมแรก นำโดย “ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน” ผู้รักษาประตู ตามด้วยแนวรับอย่าง “ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์” และ “กฤษดา กาแมน” ส่วนแนวรุก มี “ชนาธิป สรงกระสินธ์” กัปตันทีม ยืนคุมตรงกลาง และ “ธีรศิลป์ แดงดา” เป็นหน้าเป้า
ส่วนทีมชาติอินโดนิเซีย มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นบางตำแหน่งเช่นกัน นำโดย “นาเดโอ วินาตา” ผู้รักษาประตู ตามด้วย “ฟัชรุดดิน อาร์ยานโต” และ “อัลเฟอันดรา เดวังกา” ยืนเป็นแนวรับ ส่วนแนวรุก มี อีกี้ เมาลาน่า ฟิกรี, วิตาน สุไลมาน และ ราไม รูมาเกียก ยืนเป็นหน้าต่ำ พร้อมวาง “เดดิก เซเตียวาน” เป็นหน้าเป้า
เริ่มเกมไปได้ไม่นาน ในนาทีที่ 2 ทีมชาติไทยได้ลุ้นจังหวะแรก จากจังหวะที่ “สุภโชค สารชาติ” แต่งบอลให้กับ “บดินทร์ ผาลา” จับบอลจ่อๆ หน้ากรอบเขตโทษ แต่ยิงเบาเกินไป โดนแนวรับของอินโดนิเซียเคลียร์ทิ้งออกมาได้
แต่ทว่า ในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ “วิตาน สุไลมาน” จ่ายเข้ากลางให้กับ “ริคกี้ คัมบัวย่า” ได้ยิง บอลไปโดนมือ “ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน” ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย บอลกระฉอกหลุดมือ ไหลเสียบเสาสองเข้าประตูไป พาอินโดนิเซียขึ้นนำ 1-0
หลังจากที่เสียประตู ทีมชาติไทยพยายามเปิดเกมบุกเพื่อหวังเอาประตูคืน และในนาทีที่ 12 จากจังหวะลูกเตะมุม และเป็น “ธีรศิลป์ แดงดา” โหม่งชงให้กับ “สุภโชค สารชาติ” ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่บอลชนคานออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
จากนั้น ทางด้านของอินโดนิเซียเริ่มเป็นฝ่ายที่ได้ครองบอลและมีโอกาสบุก และเข้าทำประตูมากกว่า แต่ยังไม่ได้ประตูเพิ่ม
ในช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 45 ทีมชาติไทยได้โอกาสลุ้นจากจังหวะที่ “นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม” พาบอลหลุดตัวประกบ ก่อนโยนเข้ากลางให้กับ “ชนาธิป สรงกระสินธ์” ได้ตีลังกายิง แต่บอลเหินข้ามคานไป
หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกเป็นทางด้านของอินโดนิเซีย ขึ้นนำอยู่ 1-0
มาถึงในช่วงครึ่งเวลาหลัง ทีมชาติไทย ตัดสินใจเปลี่ยนตัว 3 คนรวด ได้แก่ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, อดิศักดิ์ ไกรษร และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ลงมาแทน ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, ธีรศิลป์ แดงดา และ ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์
และในนาทีที่ 54 ทีมชาติไทยได้จังหวะบุกขึ้นมา และเป็น “สุภโชค สารชาติ” ฉกบอลมาได้ ก่อนจ่ายให้กับ “ชนาธิป สรงกระสินธ์” และชงต่อให้กับ “อดิศักดิ์ ไกรษร” ตัวสำรองที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงสนาม ยิงเสียบเสาแรกเข้าไป พาทีมชาติไทย ตามตีเสมอเป็น 1-1
จากนั้นไม่นาน ในนาทีที่ 56 จากจังหวะที่ “บดินทร์ ผาลา” จ่ายบอลยัดเข้ามาตรงกลาง ก่อนจะถูกแนวรับของอินโดนิเซียสกัด แต่ไม่พ้น บอลไปเข้าทาง “สารัช อยู่เย็น” ได้ยิงเรียด บอลไปกระแทก “อัสนาวี บาฮาร์” กัปตันทีม บอลกระดอนเข้าประตูตัวเอง พาทีมชาติไทย แซงขึ้นนำ 2-1
หลังจากที่ทีมชาติไทยได้ 2 ประตูรวด เกมกลับกลายเป็นทางด้านของทีมชาติไทย ที่กลายเป็นฝ่ายมั่นใจ และได้ทำเกมบุก บวกกับมีโอกาสทำประตูอยู่หลายครั้ง
แต่ในนาทีที่ 80 จากจังหวะที่อินโดนิเซียได้โต้กลับ และเป็น “วิตาน สุไลมาน” จ่ายให้กับ “อีกี้ เมาลาน่า ฟิกรี้” ยิงด้วยซ้ายเสียบเสาสองเข้าไป พาอินโดนิเซีย ตามตีเสมอเป็น 2-2
ในช่วงท้ายเกม นาทีที่ 90+3 ทีมชาติไทย เกือบได้ประตูชัย จากจังหวะที่ “ฟิลิป โรลเลอร์” โยนบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษให้กับ “อดิศักดิ์ ไกรษร” ได้โหม่ง แต่ไม่ตรงกรอบ
หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ทั้ง 2 ทีมเสมอกันไป 2-2
รวมผล 2 นัด ทีมชาติไทย เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 6-2 คว้าแชมป์ในรายการนี้ไปครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 6 ในประวัติศาสตร์
NEWS by UFA181
เป็นสมาชิกเดิมพันบอล UFABET ค่าน้ำดีที่สุด ได้ที่ไลน์ @181UFA